มอง“ตัวเลข”
อย่างนักคณิตศาสตร์
ตัวเลขไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ปริมาณเพียงอย่างเดียว
ตัวเลขไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ปริมาณเพียงอย่างเดียว
นักคณิตศาสตร์หลายๆท่านให้ความสำคัญ และพยายามให้นิยามตัวเลข ในทัศนะที่คล้ายคลึงกันหลายๆท่าน อาทิปีทาโกรัส
เพลโต และกาลิเลโอ ได้กล่าวถึงตัวเลข รูปทรงทางคณิตศาสตร์ ผ่านความเชื่อ หลักปรัชญา ไว้อย่างน่าสนใจ ผู้เขียนขอหยิบยกบางประเด็น เชื่อมโยงแนวคิด ความเชื่อ ตามพุทธิปัญญาที่มีอยู่
แนวคิดและความเชื่อของนักคณิตศาสตร์ ในยุคก่อน
![]() |
พีทาโกรัส (Pythagoras 580-496 ก่อนค.ศ.) |
พีทาโกรัส (Pythagoras) เป็นนักคณิตศาสตร์และนักปราชญ์ชาวกรีกโบราณ
ได้ชื่อว่าเป็น “บิดาแห่งตัวเลข” มีความเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด และ เชื่อว่า
“ตัวเลขเป็นธรรมชาติที่แท้จริงของทุกสิ่ง” เป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะอธิบายสิ่งต่างๆในจักรวาล การศึกษาจำนวนในสมัยของปีทาโกรัส
ได้นำความมหัศจรรย์ของจำนวนไปผูกพันกับความเชื่อโชคลาง โหราศาสตร์ และราศี เช่น จำนวนมิตรภาพ คู่แรกที่เชื่อว่าพบในสมัยของ
Pythagoras คือ 284 และ 220 สองจำนวนนี้มีสมบัติพิเศษคือตัวหารแท้ของจำนวนหนึ่งมีผลบวกเท่ากับอีกจำนวนหนึ่ง
เช่น ตัวหารแท้ของ 284 ได้แก่ 1 ,2,4,71 และ 142 มีผลบวกเป็น
284 ผู้ที่เชื่อเรื่องโชคลางจะจารึกตัวเลขลงในเครื่องรางของขลัง
โดยเชื่อว่าคนคู่ใดห้อยของขลังที่จารึกตัวเลขดังกล่าวจะเป็นมิตรแท้ต่อกัน อีกตัวอย่างของความเชื่อในความมหัศจรรย์ของตัวเลข
คือ จำนวนสมบูรณ์
เป็นจำนวนที่มีสมบัติพิเศษ
จำนวนนั้นมีค่าเท่ากับผลบวกของตัวหารแท้ทั้งหมดของตัวมันเอง เช่น 6
เป็นจำนวนสมบูรณ์ เพราะมี 1 ,2,3 เป็นตัวหารแท้และ 6 =
1+2+3 ในสมัยนั้นเชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกและสร้างเสร็จภายใน 6 วัน
ซึ่งเป็นจำนวนสมบูรณ์ เช่นเดียวกับความเชื่อของชาวฮีบรูหรือชาวยิว ที่มีต่อเชิงทียน 7 กิ่ง เป็นสัญลักษณ์ของอิสระภาพชัยชนะ และปาฏิหาริย์แห่งแสงสว่าง ที่พระเจ้าเป็นผู้ประทาน และเชื่อว่าศาสนายูดาห์ได้ถูกสร้างขึ้นใน 7 วัน เชิงเทียน 7 กิ่งนี้เรียกกันว่า "เมโนราห์"
“เมโนราห์” ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านความเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและมนุษย์ภายใน 6 วัน
ซึ่งแท่งเทียนตรงกลางแทนพระเจ้าเป็นผู้สร้าง จะใช้ประทีปตรงกลางเป็นอันที่ใช้จุดไฟอีกหกอันที่เหลือ
ในความเชื่อตามคัมภีร์เชื่อว่าเลข 7 หมายถึงความสมบูรณ์ และเลข 6 หมายถึงมนุษย์ นอกจากนี้ชาวฮีบรูยังศรัทธาในสัญลักษณ์รูปดาวหกแฉกหรือดาวแห่งเดวิส ซึ่งเป็น
สัญลักษณ์ของกษัตริย์เดวิส และโซโลมอน บางมุมมองกล่าวว่าเป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าและสัญลักษณ์ของจักรวาล ดาวหกแฉกนี้มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมคว่ำกลับหงายสลับกัน บ้างก็เชื่อว่าเป็นแบบสัญลักษณ์ที่แทนชายกับหญิง
![]() |
ดาวแห่งเดวิส |
สัญลักษณ์ของกษัตริย์เดวิส และโซโลมอน บางมุมมองกล่าวว่าเป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าและสัญลักษณ์ของจักรวาล ดาวหกแฉกนี้มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมคว่ำกลับหงายสลับกัน บ้างก็เชื่อว่าเป็นแบบสัญลักษณ์ที่แทนชายกับหญิง
เพลโต
(Plato) เป็นนักปรัชญาฃาวกรีกโบราณ
ที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อแนวคิดตะวันตก
เพลโตเชื่อว่า “ความรู้ทั้งปวงมาจากแบบ”
แบบของเพลโตเป็นการกล่าวถึง วัตถุสิ่งของที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน เช่นรูปสามเหลี่ยม
เป็นสิ่งที่จำลองมาจากของจริงหรือต้นแบบ เพลโตได้ให้แนวคิดลักษณะของสามเหลี่ยมว่าเป็นแบบมนุษย์ที่แยกออกจากสิ่งที่เป็นวัตถุกายภาพ เป็นรูปทรงที่มีโครงสร้างที่มีระเบียบมีความงาม
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หล่อหลอมความคิดและความเชื่อทั้งในจิตวิญญาณและหลักปฏิบัติในการดำรงชีวิต
ถือว่าเป็นแบบพลังในทางระบบ
![]() |
กาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei ) (15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1564 - 8 มกราคม ค.ศ.1642) |
Galileo Galilei ได้กล่าวไว้ว่า“ตัวเลข”
คือตัวอักษรที่พระเป็นเจ้าได้ช่วยเขียนขึ้นมาในจักรวาลนี้ เปรียบได้กับ
หนังสือธรรมชาติที่มีสัญลักษณ์ตัวเลขบันทึกลงอยู่ธรรมชาติจะเปล่งเป็นภาษาเลข
ที่แสดงออกมาในรูปแบบของรูปสามเหลี่ยม วงกลม และรูปสมมาตรอื่นๆในทางคณิตศาสตร์
หากเราลองจินตนาการตามแนวคิดในเรื่องแบบโดยการยกปลายแต่ละมุมของรูปดาวหกแฉก
ของเดวิสขึ้นมาประกบกันเข้าก็จะกลายเป็นรูปพีรามิดฐานหกเหลี่ยม
ลักษณะคลายสัญลักษณ์ของภูเขาในพุทธศาสนาเชื่อว่าภูเขาถูกแทนด้วยเขาพระสุเมน เป็นตัวแทนของสิ่งที่เหนือโลก หรือการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับจักรวาลอันไพศาล บางครั้งอาจหมายถึงจุดที่สามารถสร้างศรัทธาของผู้คนในอาณาจักร ในทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานจะพบสัญลักษณ์ในลักษณะนี้เช่นกัน ซึ่งเรียกกันในนาม “มันดาลา” เป็นสัญลักษณ์แทนการจำลองจักรวาล
ลักษณะคลายสัญลักษณ์ของภูเขาในพุทธศาสนาเชื่อว่าภูเขาถูกแทนด้วยเขาพระสุเมน เป็นตัวแทนของสิ่งที่เหนือโลก หรือการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับจักรวาลอันไพศาล บางครั้งอาจหมายถึงจุดที่สามารถสร้างศรัทธาของผู้คนในอาณาจักร ในทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานจะพบสัญลักษณ์ในลักษณะนี้เช่นกัน ซึ่งเรียกกันในนาม “มันดาลา” เป็นสัญลักษณ์แทนการจำลองจักรวาล
![]() |
“มันดาลา” |